1.ชื่อผลงาน
ปวดหรือไม่ หน้าตาคือคำตอบ
2.คำสำคัญ
เครื่องมือประเมินความปวด สำหรับผู้ป่วยที่มารับบริการในแผนกกายภาพบำบัด
เครื่องมือประเมินความปวด สำหรับผู้ป่วยที่มารับบริการในแผนกกายภาพบำบัด
![](file:///C:/Users/Acer/AppData/Local/Temp/msohtmlclip1/01/clip_image001.png)
จากการมารับบริการทางกายภาพบำบัดของผู้ป่วยที่ผ่านมาพบว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่มารับบริการทางกายภาพบำบัดมีปัญหาเรื่องระบบกระดูกและกล้ามเนื้อคิดเป็นร้อยละ 85 ของจำนวนผู้ป่วยที่มารับบริการทั้งหมด และสาเหตุที่นำให้ผู้ป่วยมาโรงพยาบาลคือ ความเจ็บปวด การให้บริการทางกายภาพบำบัดมุ่งเน้นให้ผู้ป่วยมีอาการเจ็บปวดที่ดีขึ้น สามารถกลับไปทำกิจกรรมต่างๆ และใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่ในระหว่างการรักษาแต่ละครั้งยังไม่มีตัวชี้วัดที่ชัดเจนว่าอาการของผู้ป่วยดีเพิ่มมากขึ้นหรือลดลง อย่างไร ไม่มีตัวชี้วัดที่เป็นรูปธรรมที่สามารถสร้างความเข้าใจที่ตรงกันระหว่างผู้ป่วยและนักกายภาพได้ ไม่มีการบันทึกเป็นตัวเลขที่ชัดเจน จนทำให้ไม่สามารถประเมินได้ว่าการรักษาทางกายภาพบำบัดมีประสิทธิภาพหรือไม่
![]() |
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต |
ดังนั้นเพื่อการแก้ไขปัญหาดังกล่าว แผนกกายภาพบำบัดจึงได้มีการคิดวิเคราะห์ หาแนวทางแก้ไขและพัฒนาเครื่องมือที่ใช้ในการประเมินความปวดขึ้น เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถบอกเล่าอาการปวดได้อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อสร้างความเข้าใจที่ตรงกันระหว่างผู้ป่วยและนักกายภาพบำบัด ตลอดจนเพื่อประเมินประสิทธิภาพทางการรักษาของนักกายภาพบำบัดได้ ขั้นตอนการดำเนินงานได้แก่
1. วิเคราะห์ปัญหาที่พบจากการมารับบริการทางกายภาพบำบัดสำหรับผู้ป่วยที่มารับบริการ
![](file:///C:/Users/Acer/AppData/Local/Temp/msohtmlclip1/01/clip_image002.png)
![](file:///C:/Users/Acer/AppData/Local/Temp/msohtmlclip1/01/clip_image003.png)
4. นำข้อมูลที่ได้มาคิดวิเคราะห์และประเมินผล
ซึ่งจากการมีตัวชี้วัดความปวดที่ชัดเจนนี้ทำให้การประเมินความปวดของผู้ป่วยทั้งก่อนและหลังการมารับบริการเป็นไปอย่างถูกต้องแม่นยำ
ส่งผลให้ประสิทธิภาพการรักษาทางกายภาพบำบัดเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
4.ชื่อและที่อยู่ขององค์กร
แผนกกายภาพบำบัด โรงพยาบาลภูกระดึง เลขที่ 149 หมู่ 8 ตำบลภูกระดึง อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย รหัสไปรษณีย์ 42180
แผนกกายภาพบำบัด โรงพยาบาลภูกระดึง เลขที่ 149 หมู่ 8 ตำบลภูกระดึง อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย รหัสไปรษณีย์ 42180
5.สมาชิกทีม
1.นายเอกลักษณ์ เป๋าสูงเนิน ตำแหน่ง นักกายภาพบำบัดปฏิบัติการ
2.นางสาวศิริขวัญ นามศิริ ตำแหน่ง นักกายภาพบำบัด
2.นางสาวศิริขวัญ นามศิริ ตำแหน่ง นักกายภาพบำบัด
3.นางสาวกนกอร อุ่นใจ
ตำแหน่ง นักกายภาพบำบัด
6.เป้าหมาย
เพื่อประเมินความเจ็บปวดของผู้ป่วยอย่างเป็นรูปธรรม สร้างความเข้าใจที่ตรงกันระหว่างนักกายภาพบำบัดและผู้ป่วย เพิ่มประสิทธิภาพการรักษาทางกายภาพบำบัด
เพื่อประเมินความเจ็บปวดของผู้ป่วยอย่างเป็นรูปธรรม สร้างความเข้าใจที่ตรงกันระหว่างนักกายภาพบำบัดและผู้ป่วย เพิ่มประสิทธิภาพการรักษาทางกายภาพบำบัด
7.ปัญหาและสาเหตุโดยย่อ
เนื่องจากผู้ป่วยที่มารับบริการทางกายภาพบำบัดส่วนใหญ่มีปัญหาเรื่องระบบกระดูกและกล้ามเนื้อคิดเป็นร้อยละ 85 ของผู้มารับบริการทางกายภาพบำบัดทั้งหมด การให้บริการทางกายภาพบำบัดมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ป่วยมีอาการเจ็บปวดทุเลาลง ที่ผ่านมาการประเมินความเจ็บปวดมาจากการสอบถามอาการในลักษณะของการบอกเล่าซึ่งเป็นนามธรรม ส่งผลให้เกิดปัญหาดังต่อไปนี้
1.ไม่มีตัวชี้วัดที่เป็นรูปธรรมสร้างความเข้าใจที่ไม่ตรงกันระหว่างนักกายภาพบำบัดและผู้ป่วย
2.ไม่มีการบันทึกเป็นตัวเลข
3.ไม่สามารถประเมินได้อย่างชัดเจนว่าอาการดีขึ้นมากน้อยเท่าไร
4.ไม่สามารถวัดผลได้อย่างชัดเจนว่าการรักษามีประสิทธิภาพมากน้อยเท่าไร
ดังนั้นแผนกกายภาพบำบัดได้เล็งเห็นความสำคัญของปัญหาที่กล่าวมาข้างต้นและคิดออกแบบเครื่องมือประเมินความเจ็บปวดของผู้ป่วยขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว
เนื่องจากผู้ป่วยที่มารับบริการทางกายภาพบำบัดส่วนใหญ่มีปัญหาเรื่องระบบกระดูกและกล้ามเนื้อคิดเป็นร้อยละ 85 ของผู้มารับบริการทางกายภาพบำบัดทั้งหมด การให้บริการทางกายภาพบำบัดมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ป่วยมีอาการเจ็บปวดทุเลาลง ที่ผ่านมาการประเมินความเจ็บปวดมาจากการสอบถามอาการในลักษณะของการบอกเล่าซึ่งเป็นนามธรรม ส่งผลให้เกิดปัญหาดังต่อไปนี้
1.ไม่มีตัวชี้วัดที่เป็นรูปธรรมสร้างความเข้าใจที่ไม่ตรงกันระหว่างนักกายภาพบำบัดและผู้ป่วย
2.ไม่มีการบันทึกเป็นตัวเลข
3.ไม่สามารถประเมินได้อย่างชัดเจนว่าอาการดีขึ้นมากน้อยเท่าไร
4.ไม่สามารถวัดผลได้อย่างชัดเจนว่าการรักษามีประสิทธิภาพมากน้อยเท่าไร
ดังนั้นแผนกกายภาพบำบัดได้เล็งเห็นความสำคัญของปัญหาที่กล่าวมาข้างต้นและคิดออกแบบเครื่องมือประเมินความเจ็บปวดของผู้ป่วยขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว
8.การเปลี่ยนแปลง
ออกแบบเครื่องมือประเมินความปวดสำหรับผู้ป่วยที่มารับบริการในแผนกกายภาพภาพบำบัดและนำมาใช้ในการตรวจประเมิน การรักษา การวางแผนการรักษา การติดตามและประเมินผลการรักษา
ออกแบบเครื่องมือประเมินความปวดสำหรับผู้ป่วยที่มารับบริการในแผนกกายภาพภาพบำบัดและนำมาใช้ในการตรวจประเมิน การรักษา การวางแผนการรักษา การติดตามและประเมินผลการรักษา
ผู้ป่วยรายใหม่/แรกรับ 1.ดูแฟ้มประวัติของผู้ป่วย
อาการสำคัญที่มาโรงพยาบาล การวินิจฉัยของแพทย์
และสาเหตุที่แพทย์ส่งมาปรึกษานักกายภาพบำบัด
2.ซักประวัติผู้ป่วย ค้นหาว่าอะไรที่ผู้ป่วยคิดว่าเป็นปัญหาและนักกายภาพบำบัดค้นหาสาเหตุของปัญหาว่าน่าจะเกิดขึ้นกับโครงสร้างใดของร่างกายซึ่งการซักประวัติประกอบด้วย
2.1 Kind of disorder เป็นคำถามแรกที่นักกายภาพบำบัดจะใช้ถามผู้ป่วย คำถามในลักษณะนี้คือ มีอาการอะไรมาค่ะ/ครับ (what is your main problem at this stage?) หลังจากนั้นผู้ป่วยจะบอกเล่าอาการที่ผิดปกติให้นักกายภาพบำบัดทราบ หาก kind of disorder ของผู้ป่วยที่นำมาคืออาการปวด นักกายภาพบำบัดทำการประเมินระดับความรุนแรงของอาการปวดโดยใช้เครื่องมือประเมินที่จัดทำขึ้น เก็บข้อมูลและบันทึกเป็นตัวเลขครั้งแรก
2.ซักประวัติผู้ป่วย ค้นหาว่าอะไรที่ผู้ป่วยคิดว่าเป็นปัญหาและนักกายภาพบำบัดค้นหาสาเหตุของปัญหาว่าน่าจะเกิดขึ้นกับโครงสร้างใดของร่างกายซึ่งการซักประวัติประกอบด้วย
2.1 Kind of disorder เป็นคำถามแรกที่นักกายภาพบำบัดจะใช้ถามผู้ป่วย คำถามในลักษณะนี้คือ มีอาการอะไรมาค่ะ/ครับ (what is your main problem at this stage?) หลังจากนั้นผู้ป่วยจะบอกเล่าอาการที่ผิดปกติให้นักกายภาพบำบัดทราบ หาก kind of disorder ของผู้ป่วยที่นำมาคืออาการปวด นักกายภาพบำบัดทำการประเมินระดับความรุนแรงของอาการปวดโดยใช้เครื่องมือประเมินที่จัดทำขึ้น เก็บข้อมูลและบันทึกเป็นตัวเลขครั้งแรก
2.2
Body chart คือ
ภาพโครงร่างคนที่มีทั้งหน้าและหลังใช้บันทึกอาการผิดปกติของผู้ป่วยทำให้มองเห็นภาพได้ชัดเจน
2.3 Behaviour of symptoms คือ พฤติกรรมของอาการผิดปกติ เช่น กิจกรรมอะไรที่ก่อให้เกิดอาการปวดเพิ่มมากขึ้น/ลดลง มีปวดเวลาใดบ้าง กลางคืน เช้า หรือตลอดเวลา
2.3 Behaviour of symptoms คือ พฤติกรรมของอาการผิดปกติ เช่น กิจกรรมอะไรที่ก่อให้เกิดอาการปวดเพิ่มมากขึ้น/ลดลง มีปวดเวลาใดบ้าง กลางคืน เช้า หรือตลอดเวลา
2.4 History คือการซักถามเกี่ยวกับประวัติ
ทั้งประวัติปัจจุบัน เช่น มีอาการปวดตั้งแต่เมื่อไหร่และประวัติในอดีตเช่น
เคยมีอาการปวดมาก่อนหรือไม่ เคยได้รับอุบัติเหตุหรือไม่
2.5 Special
question คือ
การซักถามเพื่อให้ได้ข้อมูลบางอย่างที่ซ่อนเร้นอยู่
เพื่อประกอบในการพิจารณาในการรักษา เช่น ได้รับการถ่าย x-raysหรือไม่ มีน้ำหนักเปลี่ยนแปลงหรือไม่ในช่วงนี้ ทานยาอะไรอยู่เป็นประจำ เป็นต้น
3.ตรวจประเมินร่างกายทางกายภาพบำบัดตามขั้นตอน ตั้งแต่การสังเกต (Observation and inspection) ไปจนถึงการทดสอบพิเศษ(special tests)ต่างๆ
3.ตรวจประเมินร่างกายทางกายภาพบำบัดตามขั้นตอน ตั้งแต่การสังเกต (Observation and inspection) ไปจนถึงการทดสอบพิเศษ(special tests)ต่างๆ
4.วางแผนการรักษา
5.ให้การรักษาทางกายภาพบำบัดตามที่วางแผนไว้ตลอดจนคำแนะนำต่างๆที่เป็นประโยชน์
6.ออกบัตรนัด ระบุ วัน เวลา ในการมารับการรักษาต่อเนื่องในครั้งต่อไป
5.ให้การรักษาทางกายภาพบำบัดตามที่วางแผนไว้ตลอดจนคำแนะนำต่างๆที่เป็นประโยชน์
6.ออกบัตรนัด ระบุ วัน เวลา ในการมารับการรักษาต่อเนื่องในครั้งต่อไป
7.ผู้ป่วยกลับบ้าน
ผู้ป่วยรายเก่า/ตามนัด 1.วัดความดันโลหิต
สอบถามอาการของวันนี้ ลักษณะอาการปวดที่เปลี่ยนแปลงไป ดีขึ้น/ลดลง
โดยนำเครื่องมือประเมินที่ทำการออกแบบขึ้นมาใช้ในการประเมินผลการรักษา
เก็บข้อมูลและบันทึกเป็นตัวเลขเมื่อทำการรักษาครบทุกๆ 3 ครั้ง
2.ทำการตรวจประเมินร่างกายทางกายภาพบำบัดซ้ำ (re-assessment)
3.วางแผนการรักษาใหม่/ให้แผนการรักษาตามเดิม
4.ให้การรักษาทางกายภาพบำบัดตามขั้นตอน
4.ให้การรักษาทางกายภาพบำบัดตามขั้นตอน
5.ทบทวนวัน เวลาที่นัด หรือเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม เช่น
หากอาการปวดดีขึ้นหรือหายเป็นปกติแล้วมีการพิจารณาการมารับการรักษาให้ห่างออกในครั้งต่อไป
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของนักกายภาพบำบัดหรือลักษณะอาการของผู้ป่วยในแต่ละราย
6.ผู้ป่วยกลับบ้าน
6.ผู้ป่วยกลับบ้าน
9.การวัดผลและผลของการเปลี่ยนแปลง
การวัดผล:
1.นำเครื่องมือประเมินความปวดสำหรับผู้ป่วยที่มารับบริการในแผนกกายภาพบำบัดมาใช้ เริ่มตั้งแต่ เดือน กันยายน 2556 –ธันวาคม 2556 เป็นระยะเวลา 4 เดือน โดยเริ่มใช้ในผู้ป่วยที่เป็นรายใหม่ทั้งหมด
การวัดผล:
1.นำเครื่องมือประเมินความปวดสำหรับผู้ป่วยที่มารับบริการในแผนกกายภาพบำบัดมาใช้ เริ่มตั้งแต่ เดือน กันยายน 2556 –ธันวาคม 2556 เป็นระยะเวลา 4 เดือน โดยเริ่มใช้ในผู้ป่วยที่เป็นรายใหม่ทั้งหมด
2.ประเมินอาการเจ็บปวดของครั้งแรกของการรักษา
และ ครั้งที่ 3 ของการรักษา
3.เก็บรวบรวมข้อมูล
4.นำข้อมูลที่ได้มาคิดวิเคราะห์ โดยสามารถสามารถบอกเป็นตัวเลขที่ชัดเจนได้ว่าอาการปวดทุเลาลงจากเดิมกี่เปอร์เซ็นต์ ผู้ป่วยอาการดีขึ้นร้อยละเท่าไรของผู้มารับบริการทั้งหมด และการรักษาทางกายภาพบำบัดมีประสิทธิภาพหรือไม่
ผลของการเปลี่ยนแปลงที่คาดว่าจะเกิดขึ้น:
4.นำข้อมูลที่ได้มาคิดวิเคราะห์ โดยสามารถสามารถบอกเป็นตัวเลขที่ชัดเจนได้ว่าอาการปวดทุเลาลงจากเดิมกี่เปอร์เซ็นต์ ผู้ป่วยอาการดีขึ้นร้อยละเท่าไรของผู้มารับบริการทั้งหมด และการรักษาทางกายภาพบำบัดมีประสิทธิภาพหรือไม่
ผลของการเปลี่ยนแปลงที่คาดว่าจะเกิดขึ้น:
1.ผู้ป่วยบอกอาการปวดได้อย่างเป็นรูปธรรม
2.เกิดความเข้าใจที่ตรงกันระหว่างผู้ป่วยและนักกายภาพบำบัด
3.ประเมินผลของการรักษาทางกายภาพบำบัดว่ามีประสิทธิภาพได้
2.เกิดความเข้าใจที่ตรงกันระหว่างผู้ป่วยและนักกายภาพบำบัด
3.ประเมินผลของการรักษาทางกายภาพบำบัดว่ามีประสิทธิภาพได้
10.บทเรียนที่คาดว่าจะได้รับ
จากการนำเครื่องมือประเมินความปวดสำหรับผู้ป่วยในแผนกกายภาพบำบัดไปใช้
จะสามารถสร้างความเข้าใจและการสื่อสารที่ตรงกันระหว่างผู้ป่วยและนักกายภาพบำบัดได้
ใช้งานง่ายและง่ายต่อการทำความเข้าใจของผู้ป่วยที่แตกต่างกันในแต่ละวัย
สามารถประเมินได้ว่าอาการเจ็บปวดของผู้ป่วยดีขึ้นหรือไม่
การรักษาทางกายภาพบำบัดมีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด
และพัฒนาต่อไปให้ดียิ่งขึ้นโดยการนำไปใช้ร่วมกับบัตรนัดที่ให้กับผู้ป่วย
เพื่อจะได้ง่ายต่อการประเมินมากขึ้น
และนอกจากนี้ยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับหน่วยงานอื่นๆได้ เช่น กลุ่มงานแพทย์แผนไทย หรือ กลุ่มงานพยาบาล
เป็นต้น
11.การติดต่อกับทีมงาน
แผนกายภาพบำบัด โรงพยาบาลภูกระดึง หมายเลขโทรศัพท์ :(042) 871016-7 ต่อ126 / 080-4638191
แผนกายภาพบำบัด โรงพยาบาลภูกระดึง หมายเลขโทรศัพท์ :(042) 871016-7 ต่อ126 / 080-4638191
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น