การพัฒนาระบบการดูแลผู้ป่วยไข้เลือดออก
คำสำคัญ : ไข้เลือดออก ,Shock, การเสียชีวิต
ความสำคัญของปัญหา
เนื่องจากการระบาดของไข้เลือดออกสูงขึ้นในเขตจังหวัดเลย โดยเฉพาะในเขตอำเภอภูกระดึงมีผู้ป่วยไข้เลือดออกเข้ารับการรักษาเพิ่มสูงขึ้นกว่าทุกปีที่ผ่านมาและมีผู้ป่วยที่เสียชีวิตจำนวน
1 ราย ดังนั้น งานผู้ป่วยในจึงร่วมกับทีมสหวิชาชีพในการพัฒนาระบบการดูแลผู้ป่วยไข้เลือดออกให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
![]() |
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต |
สมาชิกทีม : 1. แพทย์ผู้รับผิดชอบงาน PCT
2. คณะอนุกรรมการตึกผู้ป่วยใน
3. ทีมควบคุมโรค PCU
เป้าหมาย : 1. เพื่อหาแนวทางการดูแลผู้ป่วยไข้เลือดออกให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
2. เพื่อป้องกันการเสียชีวิตด้วยไข้เลือดออก
3. เพื่อควบคุมโรคในชุมชนและลดการเพิ่มจำนวนของผู้ป่วยไข้เลือดออก
ปัญหาและสาเหตุ : จากการประเมินการดูแลผู้ป่วยไข้เลือดออกพบว่ามีการจัดในผู้ป่วยนอนตามเตียงที่ว่าง ให้การดูแลเหมือนกับผู้ป่วยทั่วไป โดยวัดสัญญาณชีพทุก 4 ชั่วโมง
ทำให้ผู้ป่วยที่มีอาการเปลี่ยนแปลงได้รับการดูแลที่ล้าช้า เสี่ยงต่อการเสียชีวิต
การเปลี่ยนแปลง
1.
มีการประชุมเพื่อกำหนดแนวทางการดูแลผู้ป่วยไข้เลือดออก
2.
การกำหนดโซนผู้ป่วยไข้เลือดออก โดยการจัดเตียงรับผู้ป่วยไข้เลือดออกที่จำเป็นต้องนอนรักษาในโรงพยาบาลบริเวณ
Lock
กลางของตึกที่พยาบาลสามารถมองเห็นผู้ป่วยจาก Nurse
Station ได้ตลอดเวลา
และสะดวกในการวัดสัญญาณชีพเนื่องจากผู้ป่วยอยู่ใกล้กัน
3.
กำหนดให้วัดสัญญาณชีพทุก 1-2
ชั่วโมง เมื่อผู้ป่วยเข้าสู่ระยะ Leaked หรือ Plt ต่ำกว่า 100,000 และโอกาสในเกิดภาวะ Shock
4.
จัดแยกใบบันทึกสัญญาณชีพเพื่อให้เห็นชัดเจนป้องกันการลืมวัดสัญญาณชีพ
5.
แจกยาทากันยุงในผู้ป่วยที่อยู่ในระยะแพร่กระจายเชื้อ
6.
กำหนดให้ใช้เครื่องวัดความดันโลหิตแบบ
Manual ในการวัด
การวัดผลและการเปลี่ยนแปลง
ก่อนการพัฒนา
|
หลังการพัฒนา
|
1.
ผู้ป่วยไข้เลือดออกนอนคละกันกับผู้ป่วยทั่วไป
2.
การวัด V/S ส่วนใหญ่วัดทุก 4
ชั่วโมง และวัดถี่ขึ้นเมื่อมีปัญหา BP
ต่ำ
3.
เจ้าหน้าที่ไม่สะดวกเมื่อต้องวัด V/S บ่อยเนื่องจากผู้ป่วยอยู่คนละที่กัน
4.
ผู้ป่วยไข้เลือดออกที่อยู่ในระยะไข้เสี่ยงต่อการแพร่กระจายเชื้อให้ผู้ป่วยข้างเคียง
|
1.
ผู้ป่วยไข้เลือดออกได้รับการจัดเตียงให้อยู่ใกล้กัน
2.
การเฝ้าระวังภาวะ Shock และ Observe V/S
บ่อยขึ้นเมื่อเข้า Leaked
3.
เจ้าหน้าที่สามารถวัด V/S ได้สะดวกไม่ต้องเดินไกลเนื่องจากผู้ป่วยอยู่ใกล้กัน
4.
โอกาสของการแพร่กระจายเชื้อสู่เตียงข้างเคียงลดลง
|
บทเรียนที่ได้รับ
1.
เป็นแนวทางที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการเสียชีวิตของผู้ป่วยไข้เลือดออก
2.
การกำหนดแนวทางการปฏิบัติ(CPG)ทำให้การทำงานสะดวกและชัดเจน
3.
ด้านบุคลากรเป็นการพัฒนาศักยภาพของพยาบาลในการดูแลผู้ป่วยไข้เลือดออก
แผนการพัฒนาต่อเนื่อง
1.
การสร้างความร่วมมือในการป้องกันไข้เลือดออกภายในชุมชน
2.
พัฒนาระบบการบันทึกข้อมูล
การเก็บข้อมูล เพื่อการดูแลต่อเนื่อง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น