Service Profile[1]
หน่วยงาน
รังสีวินิจฉัย โรงพยาบาลภูกระดึง
1. บริบท[2] (Context)
ก. หน้าที่และเป้าหมาย
1. ผู้รับบริการได้รับผลการบริการถ่ายภาพรังสีทั่วไป(ถ่ายPlain Film) เพื่อประกอบการวินิจฉัยโรคได้อย่างถูกต้อง
ปลอดภัย แม่นยำ รวดเร็วอย่างมีมาตรฐาน
ตามความต้องการของแพทย์ และผู้รับบริการ
พร้อมทั้งควบคุมความปลอดภัยจากการใช้รังสีตามขีดความสามารถของโรงพยาบาล
2. ให้บริการเก็บภาพรังสีของผู้ป่วย
ค้น ให้ยืม รับคืน อย่างถูกต้อง ปลอดภัย ไม่สูญหาย
ข. ขอบเขตการให้บริการ (ถ้าเป็นหอผู้ป่วยให้ระบุกลุ่มโรคสำคัญในหน่วยงานนี้ด้วย)
ศักยภาพ ข้อจำกัด
ขอบเขตการให้บริการ
เป็นงานที่ให้บริการทางด้านรังสีวินิจฉัยแก่ผู้รับบริการในโรงพยาบาลภูกระดึง
เฉพาะงานบริการถ่ายภาพรังสีทั่วไป(ถ่ายPlain Film),Portable Chest x-ray และงานควบคุมความปลอดภัยจากการใช้รังสีของโรงพยาบาล
โดยเจ้าพนักงานรังสีการแพทย์และเจ้าหน้าที่ผู้ร่วมให้บริการ
ซึ่งให้การบริการได้ดำเนินการดังนี้
1.วันธรรมดา
ให้บริการตั้งแต่เวลา 08.00 น.- 18.00 น.
2.วันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์
ให้บริการตั้งแต่เวลา 08.00 น.- 16.00 น.
3.นอกเวลาราชการ
ให้บริการเฉพาะผู้ป่วยอุบัติเหตุและฉุกเฉิน บริการแบบ On call
วันธรรมดา
ให้บริการตั้งแต่เวลา 18.00 น.- 08.00 น.ของวันถัดไป
วันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์
ให้บริการตั้งแต่เวลา 16.00 น. – 08.00 น. ของวันถัดไป
ศักยภาพ
มีบุคลากรให้บริการดังนี้
1.
เจ้าพนักงานรังสีการแพทย์ จำนวน 1 คน (พนักงานประจำ)
2.
พนักงานการแพทย์และรังสีเทคนิค
จำนวน 1 คน
3.
เจ้าพนักงานวิทยาศาสตร์การแพทย์
จำนวน 1 คน ( On call)
4.
ผู้ช่วยเหลือคนไข้
จำนวน 1 คน ( On call)
ข้อจำกัด
- ไม่ให้บริการตรวจพิเศษ เนื่องจากไม่มีความพร้อมเรื่องอุปกรณ์
เครื่องมือ และไม่มีรังสีแพทย์
ค. ผู้รับผลงานและความต้องการที่สำคัญ
(จำแนกตามกลุ่มผู้รับผลงาน)
ความต้องการของผู้รับบริการ (ผู้ป่วย และญาติ)
1. การถ่ายภาพรังสีที่ถูกต้อง ครบถ้วน รวดเร็ว อย่างมีคุณภาพ
2. มีความปลอดภัยจากการถ่ายภาพรังสี
3. เจ้าหน้าที่มีพฤติกรรมการบริการที่ดี
4. ห้องเอ็กซเรย์สะอาด เรียบร้อย
ไม่มีกลิ่นเหม็นจากน้ำยาล้างฟิล์ม
5. เครื่องเอ็กซเรย์ และอุปกรณ์อื่นๆ
พร้อมให้บริการเสมอ
6.
ได้รับคำอธิบายที่เกี่ยวกับการตรวจทางรังสีอย่างถูกต้อง เข้าใจง่าย
7. เสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยน ใหม่ สะอาด
ความต้องการของผู้ร่วมงานในโรงพยาบาล
1. แพทย์ เจ้าหน้าที่พยาบาล
- ได้รับภาพถ่ายรังสีที่รวดเร็ว ถูกคน ถูกต้อง ถูกที่ ถูกส่วน ถูกอวัยวะ
ครบถ้วนเพื่อให้แพทย์ใช้ผลการตรวจประกอบการวินิจฉัยโรคได้ถูกต้อง รวดเร็ว
- ควบคุมและป้องกันการติดเชื้อสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการและผู้ป่วยได้เป็นอย่างดี
- รายงานภาวะวิกฤติฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นกับผู้รับบริการขณะทำการตรวจทางรังสีได้ทันเวลา
- ควบคุมผลตรวจทางรังสีกลับคืนสู่งานรังสีได้ถูกต้อง
ครบถ้วน
- ค้นหาฟิล์มเก่าของผู้ป่วยได้อย่างรวดเร็ว
มีระบบการจัดเก็บที่ดี ไม่สูญหาย
2. เจ้าหน้าที่ที่มาติดต่องาน เช่น เวรเปล
เจ้าหน้าที่เวชระเบียน เจ้าหน้าที่ซักฟอก เป็นต้น
- ปลอดภัยจากรังสี
-
ได้รับการประสานที่ถูกต้อง รวดเร็ว
- สามารถเคลื่อนย้ายผู้ป่วยเพื่อทำการฉายรังสี
ได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย
- จัดเตรียมและจัดส่งเสื้อผ้าผู้รับบริการมายังงานรังสีวินิจฉัยได้อย่างถูกต้อง
สะอาดและเพียงพอ
- เตรียมฟิล์มและน้ำยาล้างฟิล์ม
ได้ถูกต้อง เพียงพอ ครบถ้วน
ง.
ประเด็นคุณภาพที่สำคัญ
1. ผู้รับบริการได้รับการถ่ายภาพรังสีที่มีคุณภาพ
2.
ผู้รับบริการมีความปลอดภัยทางรังสี มีการป้องกันอันตรายจากรังสี
และอันตรายอื่นๆที่อาจจะเกิดขึ้น
3.
ภาพรังสีที่ส่งไปให้แพทย์เพื่อการวินิจฉัยโรค มีคุณภาพ ถูกต้อง และครบถ้วน ภายใต้ข้อจำกัดในการให้ความร่วมมือตามสภาพของผู้ป่วย
4.
ผู้รับบริการได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับรังสีอย่างถูกต้อง
5.
ผู้รับบริการมีความพึงพอใจ
จ. ความท้าทาย ความเสี่ยงสำคัญ
ความท้าทาย
1. การให้บริการถ่ายภาพรังสีที่มีคุณภาพด้วยความรวดเร็ว
ในผู้ป่วยกลุ่มมีภาวะเสี่ยงสูง ได้แก่
-
ผู้ป่วยเสี่ยงต่อการแพร่กระจายเชื้อทางระบบทางเดินหายใจ
- ผู้ป่วยอุบัติเหตุและฉุกเฉิน
-
ผู้ป่วยมีภาวะหอบ หายใจลำบาก
2.
การป้องกันความเสี่ยงจากกการถ่ายภาพรังสีให้แก่ผู้ป่วยสตรีวัยเจริญพันธุ์ และผู้ป่วยเด็ก
3. การวางแผนรองรับผู้ป่วยภาวะวิกฤตที่มารับบริการที่ห้องเอ็กซเรย์
ความเสี่ยงสำคัญ
ความเสี่ยง
|
แนวทางป้องกัน/หลีกเลี่ยง
|
1. คำสั่งเอ็กซเรย์ทางคอมพิวเตอร์ไม่ตรงกับคำสั่งแพทย์
|
1.ทบทวนคำสั่งแพทย์เทียบกับคอมพิวเตอร์ทุกครั้งก่อนทำการเอ็กซเรย์
2.
ประสานกับฝ่ายการพยาบาลประชุมทบทวนเรื่องการส่งตรวจเอ็กซเรย์
โดยให้ทางงานรังสีเป็นผู้รับผิดชอบในการส่งตรวจเอง
3. โทรศัพท์สอบถามแพทย์ผู้สั่งโดยตรง
|
2. ผู้ป่วยเกิดภาวะวิกฤติภายในห้องเอ็กซเรย์
|
1. ประสานความช่วยเหลือเบื้องต้นโดยการกดกริ่งสัญญาณฉุกเฉินระหว่างห้องเอกซเรย์กับห้องอุบัติเหตุฉุกเฉิน
ซึ่งได้รับความช่วยเหลือภายในเวลา 1-2 นาที 2. จัดให้มีชุด
Emergency set ไว้ภายในห้องเอ็กซเรย์
3. Portable Chest x-ray ในกรณีผู้ป่วยมีอาการดังต่อไปนี้
1.
ผู้ป่วยไม่รู้สึกตัว ใส่ท่อช่วยหายใจ
2. ผู้ป่วยที่ใส่สายท่อระบายทรวงอก
(ICD)
3. ผู้ป่วย
Multiple trauma(ผู้ป่วยบาดเจ็บหลายตำแหน่ง
ที่ต้องการเฉพาะ Chest
เท่านั้น)
4. ผู้ป่วยเหนื่อย
หายใจหอบ เสี่ยงต่อการหยุดหายใจ
5. ผู้ป่วยชักเกร็ง
|
3.เครื่องเอ็กซเรย์ชำรุด เสียหาย ใช้การไม่ได้
|
1. มีการตรวจเช็คเครื่องเอ็กซเรย์เป็นประจำทุกวัน 2. ใช้เครื่องเอ็กซเรย์ Portable ทำการฉายรังสีชั่วคราว
|
4.เครื่องล้างฟิล์มชำรุดเสียหาย ใช้การไม่ได้
|
มีระบบสำรองโดยให้ใช้การล้างฟิล์มแบบล้างด้วยมือ
|
5.ภาพถ่ายเอกซเรย์ไม่คมชัด
ดำ หรือ ขาว เกินไป
|
- ภาพไม่คมชัด
แก้ไขโดยการทำความเข้าใจและขอความร่วมมือกับผู้ป่วยไม่ให้เคลื่อนไหว หรือหายใจเข้า-ออก ในขณะกดเอกซเรย์และใช้รังสีตาม Exposure char
|
6. Cassette ชำรุดไม่พร้อมใช้ หรือสกปรกไม่มีคุณภาพ
|
1.ทำการซ่อมแซมทันที
2.ทำความสะอาดทุก 1 เดือน
3. Cassette ทดสอบ Light leak และความแนบชิดของ
Screen ทุก 1 ปี
|
7. . เสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยนของผู้ป่วยและผ้าปูเตียงมีไม่เพียงพอ
|
1.ประสานงานกับหน่วยงานซักฟอก เพื่อแจ้งปริมาณผ้าที่ใช้ในแต่ละวัน
และส่งผ้าที่ใช้แล้วให้หน่วยงานซักฟอกทุกวัน
2.เจ้าหน้าที่เอ็กซเรย์ตรวจสอบปริมาณเสื้อผ้าของผู้ป่วยให้มีปริมาณเพียงพอ
|
8. เอ็กซเรย์ผู้ป่วยผิดคน เอ็กซเรย์ผิดตำแหน่ง
|
1. ถามชื่อทวนทุกครั้งก่อนการถ่ายภาพรังสี
2. ตรวจสอบอาการเจ็บป่วยเบื้องต้นของผู้ป่วย เช่น
ถามว่าเจ็บข้างไหน, ตรวจสอบในประวัติ EMR ของระบบ HosXp
|
9. ผู้ป่วยตกเตียง บาดเจ็บระหว่างการเคลื่อนย้ายจากเปลนอน
รถเข็นมาที่เตียงเอ็กซเรย์
|
1.เคลื่อนย้ายผู้ป่วยด้วยวิธีการที่ถูกต้อง
มีอุปกรณ์สำหรับการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย
2.ในผู้ป่วยที่ได้รับการประเมินเสี่ยงต่อการพลัดตกหกล้มต้องให้ญาติมาจับผู้ป่วยระหว่างการเอ็กซเรย์
|
10.ผู้ป่วยได้รับรังสีมากเกินไป
|
1. จัดทำ Exposure chart
2. โคนแสงให้คลุมอวัยวะที่ต้องการถ่ายเท่านั้น
3. เลือกใช้ขนาดฟิล์มให้พอเหมะ
4. ใช้เทคนิค High kV
5. เปลี่ยน Screen และ film จาก blue เป็น green
|
11.
การเอ็กซเรย์ซ้ำ
|
- ทบทวนกระบวนการทำงานทุกขั้นตอนให้รัดกุม
เฝ้าระวังความเสี่ยงทุกกระบวนการทำงาน
|
12. การเอ็กซเรย์ผู้ป่วยตั้งครรภ์
|
1.สอบถามสภาวะการตั้งครรภ์ของผู้ป่วยสตรีวัยเจริญพันธุ์ทุกราย
2.ถ้าสงสัยว่าตั้งครรภ์ให้ส่งตรวจ UPT ก่อนทุกราย
3.ติดป้ายเตือนกรณีผู้ป่วยตั้งครรภ์ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่
|
13.
ญาติและเจ้าหน้าที่ได้รับรังสีโดยไม่จำเป็น
|
1.ญาติ หรือเจ้าหน้าที่ที่จับผู้ป่วยระหว่างเอ็กซเรย์ต้องใส่เสื้อตะกั่วป้องกันรังสีทุกครั้ง
2. ปิดประตูห้อง เปิดไฟสีแดงหน้าห้องก่อนเอ็กซเรย์ทุกครั้ง
|
14. เจ้าหน้าที่ได้รับอันตรายจากสารเคมีของน้ำยาล้างฟิล์ม
|
1.ในขณะเปลี่ยนน้ำยาล้างฟิล์ม ต้องใส่ Mask และถุงมือทุกครั้ง
2.เจ้าหน้าที่ต้องตรวจสุขภาพประจำปีทุกปี
|
15. ลืมติด Marker
หรือ ติดผิด
|
- ตรวจสอบความถูกต้องของการติด Marker และ Positionของผู้ป่วย ตั้งแต่กระบวนการถ่ายภาพรังสี และในกระบวนการตรวจสอบฟิล์ม
|
16. ภาพรังสีไม่มีคุณภาพ
คือ มีคุณสมบัติดังนี้
(1) Over/Under Exposure
(2) Blur
(3) Unsharpness
(4) Artifact
(5) Density, Contrast ไม่เหมาะสม
|
- ตรวจสอบคุณภาพของภาพรังสีก่อนส่งมอบทุกครั้ง
หากพบว่าภาพรังสีไม่ได้คุณภาพให้ถ่ายใหม่ก่อนส่งให้แพทย์อ่านผล
|
17.
ค้นฟิล์มเก่าไม่เจอ ฟิล์มหายไปจากชั้นโดยไม่ทราบสาเหตุ
18. ผู้ป่วยไม่ได้นำฟิล์มมาคืน
|
- ทำระบบการยืม คืนฟิล์มที่มีประสิทธิภาพ
- อธิบายถึงเหตุผลการที่ต้องนำฟิล์มมาคืนแก่ผู้ป่วยและญาติ
- ติดตามฟิล์มจากโรงพยาบาลที่ส่งต่อผู้ป่วยไปรักษา
|
19 ใส่ภาพรังสีผิดซอง/ ส่งมอบฟิล์มผิดคน
|
- ตรวจสอบชื่อ สกุลของผู้ป่วยที่ฟิล์ม ซอง OPD card ใบนำส่งให้ตรงกันก่อนส่งมอบ
- เรียกชื่อผู้ป่วยมารับฟิล์มทุกครั้ง
|
20.เจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการไม่อยู่ห้อง
|
1.ติดป้ายหน้าห้อง"เมื่อไม่พบผู้ให้บริการ กรุณาติดต่อห้องเบอร์
1(ห้องบัตร)
2.
เจ้าหน้าที่โทรแจ้งห้องบัตรก่อนออกจากห้อง 3. จัดเจ้าหน้าที่ประจำห้องเอ็กซเรย์
|
ฉ.
ปริมาณงานและทรัพยากร (คน เทคโนโลยี เครื่องมือ)
บุคลากร
1. เจ้าพนักงานรังสีการแพทย์ชำนาญงาน จำนวน 1 คน
2. เจ้าพนักงานวิทยาศาสตร์การแพทย์
ที่ผ่านการฝึกปฏิบัติงานรังสี จำนวน 1 คน
3. พนักงานการแพทย์และรังสีเทคนิค ที่ผ่านการฝึกปฏิบัติงานรังสี จำนวน
1 คน
4.ผู้ช่วยเหลือคนไข้
ที่ผ่านการฝึกปฏิบัติงานรังสี จำนวน 1 คน
เครื่องมือ
1.
เครื่องเอ็กซเรย์ขนาด 300
mA 125 Kv จำนวน 1 เครื่อง
ข้อจำกัด กรณี เครื่องชำรุด ใช้เครื่อง Portable แทน
2.
เครื่องล้างฟิล์มอัตโนมัติ 106 วินาที จำนวน 1 เครื่อง
ข้อจำกัด กรณี เครื่องชำรุด ใช้วิธีการล้างด้วยมือ
3.เครื่องเอ็กซเรย์ Portable ขนาด
60 mA 110 Kv จำนวน
1 เครื่อง
ข้อจำกัด ให้บริการเฉพาะ Portable Chest
x- ray เท่านั้น
กระบวนการสำคัญ (Key
Processes)[3]
กระบวนการสำคัญ
(Key Process)
|
สิ่งที่คาดหวังจากกระบวนการ
(Process
Requirement)
|
ตัวชี้วัดสำคัญ
(Performance
Indicator)
|
1. การเตรียมความพร้อม
1.1 ทำความสะอาดเครื่องมือและอุปกรณ์
1.2 ตรวจสอบและเตรียมเครื่องเอ็กซเรย์
1.3 เตรียมเครื่องล้างฟิล์มอัตโนมัติ
1.4 เตรียมชุดสำหรับเปลี่ยนของผู้ป่วย
|
- เพื่อดูแลบำรุงรักษาเครื่องมือและอุปกรณ์ให้มีความพร้อมในการใช้งาน
- เตรียมเครื่องเอ็กซเรย์ให้พร้อมสำหรับการบริการ
- เพื่อให้มีเครื่องล้างฟิล์ม น้ำยาล้างฟิล์มพร้อมใช้งาน
และได้มาตรฐาน
- เพื่อเตรียมความพร้อมในการให้บริการผู้ป่วย
- ผู้ป่วยมีชุดใหม่ สะอาดสำหรับ
เปลี่ยน
|
-
จำนวนครั้งความไม่พร้อมใช้ของเครื่องเอ็กซเรย์นานเกิน 30
-
จำนวนครั้งความไม่พร้อมใช้ของเครื่องล้างฟิล์มนานเกิน 30 นาที
|
กระบวนการสำคัญ
(Key Process)
|
สิ่งที่คาดหวังจากกระบวนการ
(Process
Requirement)
|
ตัวชี้วัดสำคัญ
(Performance
Indicator)
|
2. การรับผู้ป่วย
2.1 รับคำสั่งเอ็กซเรย์ (ทาง HosXp, ใบนำส่ง)
2.2 ตรวจสอบความถูกต้อง
2.3 ลงทะเบียนและพิมพ์ชื่อผู้ป่วย
|
- เพื่อป้องกันการเอ็กซเรย์ผิดคน ผิดท่า ผิดตำแหน่ง
|
-
จำนวนครั้งการเอ็กซเรย์ผิดคน ผิดท่า ผิดตำแหน่ง เป้าหมาย = 0
|
3. เตรียมตัวผู้ป่วย
|
- เพื่อให้ผู้ป่วยเตรียมตัวก่อนการเอ็กซเรย์ได้อย่างถูกต้อง ได้แก่
การเปลี่ยนชุด การถอดโลหะ หรือวัสดุทึบรังสีออกจากอวัยวะที่ต้องการตรวจ
ทำให้ไม่ต้องเอ็กซเรย์ซ้ำ
|
-
จำนวนฟิล์มเสียเนื่องจากการเตรียมผู้ป่วยไม่พร้อม เป้าหมาย = 0 แผ่น
|
4. การถ่ายภาพรังสี
4.1 อธิบายขั้นตอนการตรวจและวิธีการปฏิบัติตัวระหว่างการเอ็กซเรย์
4.2 จัดท่าผู้ป่วย
4.3 ตั้งค่า Exposure และถ่ายภาพรังสีของผู้ป่วย
|
- เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถปฏิบัติตัวได้อย่างถูกต้อง
- เพื่อให้ผู้ป่วยให้ความร่วมมือในการถ่ายภาพรังสี
- เพื่อให้ได้ภาพรังสีที่ถูกต้อง ชัดเจน
- เพื่อให้ได้ภาพรังสีที่มีคุณภาพ
|
-
ร้อยละฟิล์มเสียที่เกิดจากการเอ็กซเรย์ซ้ำ เป้าหมาย < 2%
|
5. การล้างฟิล์ม
|
- เพื่อให้ได้ภาพรังสีส่งมอบให้ผู้รับบริการ
|
-
จำนวนฟิล์มเสียเนื่องจากเครื่องล้างฟิล์ม เป้าหมาย = 0
|
3. ตัวชี้วัดผลการดำเนินงาน[4] (Performance Indicator) (ข้อมูล 3 ปี ย้อนหลัง)
ตัวชี้วัด
|
เป้าหมาย/ปี
|
ข้อมูล
|
||
ปี 2555
|
ปี 2556
|
ปี 2557
|
||
1.
อัตราการเอ็กซเรย์ซ้ำ (ภาพรังสีที่ยังไม่ส่งไปยังแพทย์)
|
< 2%
|
0.95
|
0.77
|
0.95
|
2.
จำนวนครั้งของการขอ Repeat film เนื่องจากภาพรังสีไม่มีคุณภาพ
จากแพทย์
|
< 2%
|
0.13
|
0.52
|
0.43
|
3.
อัตราฟิล์มหายโดยไม่ทราบสาเหตุ
|
< 3%
|
0.23
|
0.33
|
0.15
|
4.
จำนวนครั้งของการติด Marker ผิด
|
0
|
0.12
|
0.08
|
0.11
|
5.
จำนวนผู้ป่วยที่มีอาการเปลี่ยนแปลงขณะรับบริการเอ็กซเรย์
|
0
|
0
|
0
|
1
|
6. จำนวน CQI ในหน่วยงาน
|
2
|
3
|
4
|
4. กระบวนการหรือระบบงานเพื่อบรรลุเป้าหมายและมีคุณภาพ
4.1 ระบบงานที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน (รวมทั้งการพัฒนาคุณภาพที่เสร็จสิ้นแล้ว[5])
การพัฒนาระบบงานรังสีวินิจฉัย
แนวคิด
จากการทบทวนระบบงานที่ผ่านมา
ทำให้ได้ทราบว่า ระบบงานรังสีวินิจฉับยังไม่ได้มาตรฐานซึ่งแบ่งตามลักษณะงานได้ดังนี้
1.
การส่งต่อฟิล์มให้แพทย์วินิจฉัยไม่มีชื่อผู้ป่วยเนื่องจากเจ้าหน้าที่ผู้ช่วยปฏิบัติงานใช้เครื่องมือ(Film printer)ไม่ชำนาญ ต้องใช้สติคเกอร์ติดแล้วเขียนชื่อและรายละเอียดอื่นไม่ครบ
2.
ผ้าปูเตียงไม่ค่อยได้เปลี่ยน และเสื้อผ้าผู้ป่วยใช้ร่วมกันหลายครั้ง
ทำให้โอกาสการติดเชื้อระหว่างผู้ป่วยกับผู้ป่วยเองมีมาก
3.
การเรียกพยาบาลห้องฉุกเฉินมาช่วยเหลือผู้ป่วยเมื่อเกิดภาวะวิกฤติที่ห้องเอ็กซเรย์
ใช้ติดต่อทางโทรศัพท์ พยาบาลไม่ค่อยรับสายและรับสายช้ามาก ทำให้การช่วยเหลือผู้ป่วยไม่ทันเวลา
4.
มีการลงจำนวนฟิล์มเสียในแต่ละวัน
แต่ไม่ได้นำข้อมูลมาวิเคราะห์ฟิล์มเสียเพื่อพัฒนาบุคลากรและหน่วยงาน
5.
ฟิล์มเอ็กซเรย์เก่าทีแพทย์อ่านฟิล์มแล้วเก็บไว้นอกห้อง
ทำให้โอกาสฟิล์มหายมีมาก
6.
ห้องทำงานเจ้าหน้าที่อยู่ในห้องฉายรังสี ทำให้ไม่สะดวกและกีดขวางการทำงาน
7.
หน้าห้องเอ็กซเรย์ไม่มีสัญญาณไฟแดงติดตั้ง
ทำให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ป่วยไม่ทราบว่ากำลังเอ็กซเรย์อยู่
ถ้าเปิดประตูตอนฉายรังสีมีโอกาสโดนแสงเอ็กซเรย์เพิ่มมากขึ้น
8.
ไม่มีการควบคุมคุณภาพภาพถ่ายรังสีที่ถ่ายจากเจ้าหน้าที่ผู้ช่วยปฏิบัติงาน
9.
ไม่มีการดูแลและควบคุมคุณภาพของเครื่องเอ็กซเรย์และอุปกรณ์
ดังนี้
9.1 ไม่มีการอุ่นหัวหลอดเอ็กซเรย์
9.2 ไม่มีการวัดแสงตู้ดูฟิล์มเอ็กซเรย์(View boxes)
9.3 มีการทดสอบความเหลื่อมล่ำของแสงไฟกับรังสีแต่ไม่ได้ปรับปรุง
9.4 ไม่มีควบคุมคุณภาพห้องมืด
9.5 มีการทดสอบความแนบชิดของฟิล์ม-สกรีนไม่ครบตามจำวนคลาสเสท
9.6 ไม่มีการวัดอุณหภูมิและความชื้นห้องมืด,ห้องเก็บฟิล์ม
9.7 ไม่มีการควบคุมคุณภาพกระบวนการล้างฟิล์ม
9.8 มีอุปกรณ์ป้องกันอันตรายจากรังสีสำหรับผู้ป่วยไม่เพียงพอ
9.9 การจัดเก็บฟิล์มเก่าเก็บแล้วหาไม่พบ
การดำเนินการ
1.
การส่งต่อฟิล์ม ได้จัดทำสติคเกอร์ที่มีรายละเอียดครบถ้วน
2.
เสื้อผ้าผู้ป่วยใช้ครั้งเดียวและเปลี่ยนผ้าปูเตียงทุกวัน
3.
ได้มีการติดตั้งกริ่งเรียกพยาบาลห้องฉุกเฉิน
4.
มีการวิเคราะห์ฟิล์มเสียทุก 3 เดือน เพื่อนำผลการวิเคราะห์มาพัฒนาการงานและบุคลากรผู้ให้บริการ
5.
มีการจัดหาห้องเก็บฟิล์มและย้ายสถานที่เก็บฟิล์ม
ทำให้ประกันได้ว่าฟิล์มไม่หายหรือถูกขโมย
(กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาของผู้บริหาร)
6.
มีการย้ายห้องทำงานทำให้สะดวกมากขึ้น
(กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาของผู้บริหาร)
7.
มีการติดตั้งไฟแดงหน้าห้อง พร้อมคำอธิบาย”กำลังฉายรังสี” ทำให้เจ้าหน้าที่และผู้ป่วยได้ทราบ
8.
มีการจัดทำ Exposure chart ติดไว้ที่ x-ray control เพื่อให้เจ้าหน้าที่ผู้ช่วยปฏิบัติงานไดทราบว่าจะต้องใช้แสงเอ็กซเรย์เท่าไหร่ในการถ่ายเอ็กซเรย์อวัยวะต่างๆ
9.
ดูแลและควบคุมเครื่องเอ็กซเรย์ ดังนี้
9.1
มีการอุ่นหัวหลอดเอ็กซเรย์ทุกเช้าก่อนการใช้งานจริง เพื่อยืดอายุการใช้งานของหัวหลอด
9.2
ได้ให้ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์อุดรธานี
ทำการวัดแสงจากตู้ดูฟิล์มเอ็กซเรย์ทั้ง 9 ชุด ปรากฏผลการวัดไม่ผ่านมาตรฐาน
ได้ทำการไขโดยการเปลี่ยนหลอดไฟใหม่ทั้งหมดแล้ววัดซ้ำ ปรากฏว่าผ่าน 5 ชุด ไม่ผ่าน 4
ชุด จึงได้ทำการเปลี่ยนพลาสติคตู้ดูฟิล์มใหม่ทั้งหมดรอการตรวจสอบการวัดแสงในรอบต่อไป
ประมาณ เดือน มกราคม 2553
9.3
ได้มีการทดสอบความเหลื่อมล้ำของแสงไฟกับรังสี แต่ไม่ผ่านคุณภาพ
ได้มีการแก้ไขโดยช่างจากผู้แทนจำหน่ายเครื่องเอ็กซเรย์ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์อุดรธานี
เรียบร้อยแล้ว
9.4
ได้มีการติดตั้งพัดลมดูดอากาศ 2 ชุด คือ ชุดดูดอากาศเข้า 1
ชุดและชุดดูดอากาสออกต่อท่อขึ้นบนหลังคา 1 ชุด
เพื่อเป็นการป้องกันอันตรายกลิ่นจากการระเหยของน้ำยาล้างฟิล์ม
9.5
เนื่องจากเครื่องมือการตรวจสอบมีราคาแพง
ต้องให้ทางศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์อุดรธานี ทำการตรวจสอบให้ในเดือน มกราคม 2557
9.6
ในส่วนของห้องมืด
ได้รายงานให้ผู้บริหารจัดซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ให้แล้ว
และในส่วนของห้องเก็บฟิล์มให้ทางฝ่ายเภสัชกรรมเป็นผู้ทำการบันทึกให้(ห้องเก็บฟิล์มอยู่คลังยา)
9.7
ได้ทำการตรวจสอบคุณภาพเครื่องล้างฟิล์มทุก 1 ปีจากศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์อุดรธานี
และทำการควบคุมคุณภาพเครื่องล้างฟิล์มทุก 1 อาทิตย์ จากเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมเอง
9.8
เนื่องจากอุปกรณ์ป้องกันอันตรายจากรังสี มีราคาแพงมาก
ทางงานรังสีวินิจฉัยจึงได้จัดให้มีเฉพาะเท่าที่จำเป็นเท่านั้น คือ มีเสื้อตะกั่ว 3
ตัว,แว่นตากันรังสี 1 อัน,ถุงมือตะกั่ว 1 คู่, ชุดป้องกันรังสีสำหรับเด็ก 1
ชุดและปลอกคอตะกั่วกันรังสี 1 ชุด
9.9
ได้ทำการ Re – check ฟิล์มในตู้เก็บฟิล์มเก่าทุกเดือน
การวัดผลและการเปลี่ยนแปลง :
1.
ลงรายชื่อ-สกุล,อายุ,HN.,XN.,ครั้งที่และวันที่ให้ครบถ้วนทุกฟิล์ม
2.
ชี้แจงให้ผู้ให้บริการปฏิบัติตามระเบียบอย่างเคร่งครัด
3.
มีการทดสอบกริ่งทุกเดือนพร้อมทั้งลงบันทึกการทดสอบกริ่ง
(เอกสารแนบ 1)
4.
มีการวิเคราะห์ฟิล์มเสีย(เอกสารแนบ 2 )
5.
ดูความก้าวหน้าตามความเป็นจริง
6.
ดูความก้าวหน้าตามความเป็นจริง
7.
มีการติดตั้งไฟแดงเสร็จเรียบร้อยพร้อมทั้งเดทุกครั้งที่ทำการฉายรังสี
8.
จัดทำ Exposure chart เรียบร้อยแล้ว
9.
มีการปฏิบัติและได้ผลดังนี้
9.1
ลงลายมือชื่อในตารางการอุ่นหัวหลอดเอ็กซเรย์ประจำวันทุกวัน
9.2
รอการตรวจสอบจากศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ อุดรธานี รอบต่อไป
9.3
มีการทดสอบทุก 6 เดือน ถ้าไม่ผ่านทำการแก้ไขทันที
9.4
ติดตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้ว กลิ่นลดลง ไม่มี
9.5
ทดสอบแล้วแต่ยังไม่หมดทุกอัน รอการตรวจสอบจากศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์
อุดรธานี รอบต่อไป
9.6
รอการอนุมัติจากผู้บริหาร ลงบันทึกตามแบบฟอร์มอุณหภูมิและความชื้นห้องมืด(เอกสารแนบ
3)
9.7
มีเอกสารรับรองจากศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ อุดรธานี
9.8
มีครบตามความจำเป็น
9.9
ทำการสุ่มดูว่าฟิล์มถูกเก็บอย่างถูกต้องหรือไม่
10.
ห้องปฏิบัติการทางรังสีต้องมีใบอนุญาตมีไว้ครอบครองซึ่งเครื่องกำเนิดรังสีและผลิตหรือใช้พลังงานจากเครื่องกำเนิดรังสีจากสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ
(ครั้ง/2ปี)
บทเรียนที่ได้รับ
: ระบบการทำงานของหน่วยงานรังสีวินิจฉัย
ของโรงพยาบาลภูกระดึง ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการเพียง 1 คน
ทำให้การบริการผู้ป่วยได้ไม่เต็มที่ แต่อย่างไรก็ตาม
การพัฒนางานก็เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก ที่จะต้องทำให้เรามั่นใจได้ว่า
การให้บริการและเครื่องมือเครื่องใช้ มีคุณภาพเพียงพอโดยการพิจารณาเลือกรายการควบคุมคุณภาพที่คาดว่าจะสามารถทำสำเร็จได้ในทางปฏิบัติจริง แม้ว่าจะยังขาดแคลนเครื่องมือทดสอบอยู่บ้าง
แต่จะอาศัยหลักการให้ทางศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ อุดรธานี เป็นผู้ตรวจสอบและยืมเครื่องมือใช้ตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดไว้ ซึ่งต่อไปในอนาคตคาดว่าเมื่อทางโรงพยาบาลมีความพร้อมจะได้จัดหาเครื่องมือทดสอบที่จำเป็นต่อการควบคุมคุณภาพมาใช้ประจำโรงพยาบาล
ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะทำให้กระบวนการควบคุมคุณภาพมีความต่อเนื่องและยั่งยืน
จากประสบการณ์ที่ผ่านมา สรุปได้ว่าการดำเนินการควบคุมคุณภาพภายในแผนกรังสีในโรงพยาบาลต่างๆ
นั้นไม่ค่อยประสบผลสำเร็จหรือดำเนินไปอย่างช้าๆ ทั้งนี้อาจจะมาจากหลายสาเหตุ เช่น
เจ้าหน้าที่ยังไม่พร้อม ขาดเครื่องมือทดสอบ
และหลายคนยังมีมุมมองที่เป็นอคติต่อกระบวนการควบคุมคุณภาพ เช่น
เห็นว่าเป็นการสิ้นเปลืองทั้งเวลาและงบประมาณ ซึ่งก็ถูกเหมือนกันถ้าท่านไม่ต้องการคุณภาพของงานหรือภาพถ่ายรังสี
เพราะตามความเป็นจริงการที่จะได้สิ่งใดมาก็ย่อมจะต้องเสียบางสิ่งบางอย่างไป
แต่การเสียในส่วนน้อยแล้วได้กลับมาเป็นส่วนที่มากกว่าก็เป็นสิ่งที่ควรทำ
โดยเฉพาะกับการตรวจรักษาหรือวินิจฉัยโรคที่ถูกต้องแม่นยำ มีคุณภาพก็ต้องเกิดจากการสูญเสียเวลาและงบประมาณสำหรับการควบคุมคุณภาพระบบงานทั้งระบบ
แต่ไม่ใช่เป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณโดยใช่เหตุ
ส่วนสาเหตุเกี่ยวกับเวลาไม่มีหรือจำนวนคนไม่พอนี้
ก็เปรียบเสมือนการแข่งขันกับตัวเอง คนที่ต้องการมีชัยชนะเหนือคนอื่นก็ต้องมีความสามารถจัดการบริหารเวลาได้
และเชื่อได้ว่าทุกคนสามารถปฏิบัติตามได้
เพราะบางรายการทุกคนก็ต้องทำอยู่แล้วก่อนปฏิบัติงานเพียงแต่เพิ่มความสนใจขึ้นมา แล้วสังเกตและจดบันทึกเก็บไว้
เพื่อเป็นการเฝ้าติดตามการทำงานของอุปกรณ์ต่างๆว่ามีความถูกต้อง และหากพบสาเหตุแต่เนิ่นๆจะได้รีบทำการแก้ไขได้ถูกที่และทันเวลา
และเป็นการบำรุงรักษาเครื่องมือด้วย
หากมีการปฏิบัติอย่างต่อเนื่องตามระยะเวลาที่เหมาะสม
และมีการบันทึกเอกสารจัดเก็บไว้
เมื่อข้อมูลมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นก็จะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการตัดสินใจต่างๆ เช่น
การใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ได้ตามปกติ
หรือจะต้องรีบดำเนินการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ให้เหมาะสม
ควรจะเพิ่มเติมเปลี่ยนแปลงกระบวนงานส่วนไหนเพื่อให้ผลงานที่ได้อยู่ในเกณฑ์คุณภาพมาตรฐาน และหากจะยกระดับคุณภาพมาตรฐานให้สูงขึ้นจะต้องทำอย่างไร
ทั้งนี้กระบวนการควบคุมคุณภาพนี้จะสำเร็จและดำเนินต่อเนื่องไปได้
ย่อมขึ้นอยู่กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในหน่วยงานจะต้องมีวิสัยทัศน์ร่วมกันเพื่อให้งานรังสีวินิจฉัยมีคุณภาพมาตรฐานระดับสากลต่อไป
แผนการทดสอบคุณภาพ
การทดสอบ
|
ความถี่ขั้นต่ำ
|
หมายเหตุ
|
การอุ่นหัวหลอดเอกซเรย์
|
- ทุกวัน
|
|
การควบคุมคุณภาพเครื่องล้างฟิล์ม
|
- ทุกวัน
|
|
การทำความสะอาดห้องมืด
|
- ทุกวัน
|
|
การทำความสะอาดคาสเซ็ทและสกรีน
|
- ทุก 3 เดือน สำหรับ Radiography
|
|
การวิเคราะห์ฟิล์มเสีย
|
- ทุก 3 เดือน
|
|
การทดสอบฟิล์มฝอกในห้องมืด
|
- ทุก 6 เดือน
|
|
การทดสอบความเหลื่อมล้ำของแสงไฟกับลำรังสี
|
- ทุก 6 เดือน
|
|
การทดสอบตู้ดูฟิล์ม
|
- ทุก 1 ปี สำหรับวัดความสว่าง
|
|
การทดสอบการแนบชิดของฟิล์ม-สกรีน
|
- ทุก 1 ปี
|
|
การทดสอบคุณภาพของภาพถ่ายรังสี
|
- ทุก 3 เดือน
|
|
การตรวจสอบด้วยสายตา ระบบเครื่องเอกซเรย์
|
ทุก 3 เดือน
|
|
การตรวจสอบด้วยสายตา สภาพแวดล้อมของห้องมืด
|
- ทุก 3 เดือน วัดอุณหภูมิ
- ทุก 1 ปี
|
|
การตรวจสอบด้วยสายตา สถานที่เก็บฟิล์มและน้ำยา
|
- ทุก 3 เดือน วัดอุณหภูมิ
- ทุก 1 ปี
|
[3] สรุปภายใน
1 หน้า วิเคราะห์โดยเน้นผู้รับผลงานเป็นศูนย์กลาง เช่น หอผู้ป่วย
ให้พิจารณาว่ามีกระบวนการดูแลผู้ป่วยอย่างไร โดยทุกวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง
มิใช่เฉพาะกระบวนการที่พยาบาลรับผิดชอบ
[4] นำเสนอกราฟแสดงข้อมูลตัวชี้วัดสำคัญ (ก)
ตัวชี้วัดของหน่วยงานที่สอดคล้องกับเป้าหมายของหน่วยงานและมีการติดตามวัดผลอย่างต่อเนื่อง
(พร้อมคำอธิบายการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นประกอบภาพอย่างสั้นๆ) (ข)
ข้อมูลผลการพัฒนาตามโครงการสำคัญในรอบ 2-3 ปีที่ผ่านมา
[5] สรุปความสำเร็จของการพัฒนาคุณภาพที่สำคัญในช่วงเวลาที่ผ่านมา
อย่างสั้นๆ ประมาณ 5 บรรทัดถึงครึ่งหน้า ระบุแนวคิด ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
และวิธีการทำงานสำคัญที่เป็นข้อสรุปจากการพัฒนา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น